Infinity Ground

BACC’s upcoming event | Thailand and Taiwan Contemporary Architecture Exhibition

“Infinity Ground – Thailand and Taiwan Contemporary Architecture Exhibition” นิทรรศการสถาปัตยกรรมครั้งแรกของปี ที่จะจัดขึ้นและเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2566 ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (BACC)

โดยครั้งนี้สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย สนับสนุนโดยกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ร่วมกับ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยมี เจอร์รี่ หง (Jenchieh Hung) ประธานคณะทำงานนิทรรศการจากสมาคมสถาปนิกสยามฯ ร่วมกับกุลธิดา ทรงกิตติภักดี ผู้ร่วมก่อตั้งและสถาปนิกหลักจาก HAS Design and Research เป็นหัวหน้าภัณฑารักษ์ของนิทรรศการ ได้คัดเลือกผลงานบริษัทสถาปนิก 8 บริษัทจากไทยและไต้หวันเข้าร่วมจัดแสดง ซึ่งประกอบด้วยบริษัทสถาปนิก 49 จำกัด (Architects 49 Limited), บริษัทสถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด(Arsomsilp Community and Environment Architect), บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด (Duangrit Bunnag Architect Limited), บริษัท ดีพาร์ทเม้นท์ ออฟ อาร์คิเทคเจอร์ จำกัด (Department of ARCHITECTURE) และ Ambi Studio, MAYU architects, Behet Bondzio Lin Architekten, Atelier Or จากไต้หวัน

The first architectural exhibition at the Bangkok Art and Culture Center (BACC) in 2023 will officially open on Tuesday, July 18. “Infinity Ground – Thailand and Taiwan Contemporary Architecture Exhibition” is organized by The Association of Siamese Architects Under Royal Patronage and Taipei Economic and Cultural Office in Thailand, sponsored by the Ministry of Culture (Taiwan), and in cooperation with Chulalongkorn University – Faculty of Architecture, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang – School of Architecture, Art, and Design, King Mongkut’s University of Technology Thonburi – School of Architecture and Design, and Silpakorn University – Faculty of Architecture.

The principal curators are Jenchieh Hung, who is the exhibition chairman of The Association of Siamese Architects Under Royal Patronage, and Kulthida Songkittipakdee, who is the co-founder and principal architect of HAS Design and Research. They curated eight architectural firms from Thailand and Taiwan to participate in the exhibition, including Architects 49 Limited (A49), Arsomsilp Community and Environment Architect, Duangrit Bunnag Architect Limited (DBALP), Department of ARCHITECTURE, Ambi Studio, MAYU architects, Behet Bondzio Lin Architekten, and Atelier Or.

ผลงานสถาปัตยกรรมจาก 8 บริษัท ที่นำมาจัดแสดงนั้น ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ พัทยา ปทุมธานี สมุทรสาคร นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา ส่วนในไต้หวันตั้งอยู่ที่เมืองซินจู๋ หนานโถว หยุนหลิน เกาสง ผิงตง และอี๋หลาน ผลงานทั้งหมดนั้นเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางวัฒนธรรม สภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาสังคมที่ส่งผลต่องานสถาปัตยกรรมทั้งทางตรงหรือทางอ้อม

เจอร์รี่ หง ประธานจัดงานนิทรรศการตั้งข้อสังเกตว่า ด้วยภูมิศาสตร์และบริบทที่ต่างกัน สถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่เหล่านี้มีวิธีการตอบสนองและปฏิสัมพันธ์กับผืนดินในถิ่นที่โครงสร้างหยั่งรากลงอย่างไร แม้ว่าผืนดินเป็นส่วนต่อประสานเชื่อมโยงทุกสิ่งบนโลกในธรรมชาติเสมอมา พื้นผิวของมันกลับเป็นตัวกำหนดเงื่อนไขการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ไปจนถึงการปรับสมดุลบนโลกด้วยกลไกการทำงานของสิ่งแวดล้อม กว่าศตวรรษที่แล้ว อัลเฟรท โลทาร์ เวเกอเนอร์ (Alfred Lothar Wegener) นักธรณีวิทยาชาวเยอรมันได้เขียนหนังสือชื่อ The Origin of Continents and Oceans อธิบายว่าในอดีตโลกเคยรวมตัวกันเป็นมหาทวีปแพนเจีย (Pangea) ล้อมรอบด้วยผืนน้ำของแพนธาลัสซา (Panthalassa) ซึ่งต่อมาได้เคลื่อนที่และแตกออกเป็นเจ็ดทวีป ห้ามหาสมุทรในปัจจุบัน

นิทรรศการยังคงมุมมองของ “การเลื่อนไหล” และ “การรวมตัว” ของโลก โดยแบ่งการนำเสนอสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของไทยและไต้หวันออกเป็น 2 หมวด คือ “การแลกเปลี่ยนบนผืนดิน” (Ground Exchanges) และ “ความรู้สึกจากผืนดิน” (Feeling Grounds) ที่แสดงวิถีชีวิตใหม่ของมนุษย์และธรรมชาติผ่านสถาปัตยกรรมบนพื้นฐานร่วมกันอันอุดมไปด้วยความสัมพันธ์, ความศักดิ์สิทธิ์, ลักษณะท้องถิ่น, การแทรกซึม, ความพิเศษ, การระลึกถึง, พื้นถิ่น, และไร้ขอบเขต

Among the eight architectural firms, their exhibited architectural works are in Bangkok, Pattaya, Pathum Thani, Samut Sakhon, Nakhon Ratchasima, and Phra Nakhon Si Ayutthaya in Thailand; and Hsinchu, Nantou, Yunlin, Kaohsiung, Pingtung, and Yilan in Taiwan, where different cultural backgrounds, different climatic conditions, and diverse social developments are indirectly or directly expressed in how the building responds to the characteristics of the ground.

Jenchieh Hung, the exhibition chairmen of The Association of Siamese Architects Under Royal Patronage, told us: “Infinity Ground – Thailand and Taiwan Contemporary Architecture Exhibition” takes the earth as the interface, connecting all of nature as a background story. On the undulating surface, it provides conditions for the interdependence of people, buildings, and nature and balances the operating mechanisms of the environment. More than a century ago, German geologist Alfred Lothar Wegener wrote a book called The Origin of Continents and Oceans and explained that the earth is aggregated into a Pangea, surrounded by the waters of the Panthalassa, which later began to drift and split to form the basic landforms of the seven continents and five oceans. 

The exhibition continues the perspective of the “drift” and “aggregation” of the earth, presenting Thailand and Taiwan contemporary architecture in two chapters, “Ground Exchanges” and “Feeling Grounds”, which show new human and nature lifestyles based on the common earth’s ground: togetherness, ritual, native, porosity, extra-ordinary, nostalgic, vernacular, and boundaryless.

Ground Exchanges

ในกลุ่มแรก “Ground Exchanges” การแลกเปลี่ยนวิทยาการทางการก่อสร้างสมัยใหม่ได้กำหนดกรอบทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะที่อุดมสมบูรณ์ของผืนดิน เช่น ผลงาน เวลา สินธร วิลเลจ ของบริษัทสถาปนิก 49 จำกัด (ปีที่แล้วเสร็จพ.ศ. 2562)และโรงละคร สิงห์ ดีลักษณ์ ซีเนมาติก เธียเตอร์ (พ.ศ. 2560) อาคารทั้งสองเสมือนลอยตัวอยู่กลางอากาศเปิดพื้นที่ให้กับพื้นที่สาธารณะ โดยพื้นที่ธรรมชาติกระจายตัวล้อไปกับอาคาร ขณะที่ภาพลักษณ์ของอาคารสัมพันธ์ไปกับแสงและลมของพื้นที่ ผลงาน Eternal Hill Columbarium (พ.ศ. 2565) และ House of Roofs (พ.ศ. 2559) ของ Behet Bondzio Lin Architekten เป็นผลงานออกแบบที่ตอบสนองต่อสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกชุกของไต้หวัน และแฝงถึงความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนที่มีต่อพื้นดิน ผลงานวิหารแก้ว (พ.ศ. 2563) ของ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด งานสถาปัตยกรรมได้ส่งเสริมจิตวิญญาณอันเป็นนิรันดร์ให้กับสถานที่ ส่วนโครงการบ้านพักอาศัยประชาชื่น (พ.ศ. 2563) ผสานสภาพแวดล้อมสร้างความรู้สึกของพื้นที่แทรกซึมเข้าไปในอาคาร โครงการห้องสมุดสาธารณะ Pingtung Public Library (พ.ศ. 2563) และ Kaohsiung American School Athletic Complex (พ.ศ. 2559) ของ MAYU architects การใช้รูปทรงเรขาคณิตที่ตรงไปตรงมาร่วมกับโครงสร้างอาคารที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนในท้องถิ่นเชื่อมโยงมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร้รอยต่อ ในบรรดาผลงานของบริษัทสถาปนิกทั้งสี่นั้น Ground Exchanges ไม่เพียงแต่นำเสนอการแลกเปลี่ยนที่ประกอบขึ้นจากความสัมพันธ์, ความศักดิ์สิทธิ์, ลักษณะท้องถิ่น และการแทรกซึมระหว่างสถาปัตยกรรมกับผืนดินเพียงเท่านั้น แต่โครงการทั้งหมดยังแสดงให้เห็นทิศทางการอยู่ร่วมกันระหว่างสถาปัตยกรรมกับผืนดินในอนาคตอีกด้วย

Feeling Grounds

ในกลุ่มที่สอง “Feeling Grounds” ผสานแนวคิดจากสิ่งแวดล้อมกับงานฝีมือพื้นถิ่น วัสดุและเทคนิกการก่อสร้างที่ตกทอดกันมาได้ถ่ายทอดการรับรู้ทางความรู้สึกผ่านทางผืนดินในหลายมิติ เช่น ผลงานของบริษัทสถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด โครงการอุทยานเรียนรู้ป๋วย 100 ปี (พ.ศ. 2562) และห้องสมุดเก๋งเรือลอยฟ้าท่าฉลอม (พ.ศ. 2565) อาคารเหล่านี้ยังคงไว้ซึ่งพื้นผิวภูมิทัศน์และเพิ่มด้วยคุณสมบัติที่สร้างระบบนิเวศในระดับจุลภาคให้กลมกลืนกับผืนดิน พื้นที่ว่างที่เกิดขึ้นกลายเป็นส่วนต่อประสานสิ่งแวดล้อมดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างคุณค่าเฉพาะถิ่น สำหรับโครงการ Hushan Reservoir Archaeological Exhibition Hall (พ.ศ. 2566) และ Yuhsiu Museum of Arts (พ.ศ. 2558) โดยสถาปนิกจาก Ambi Studio ได้ออกแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องไปกับภูมิประเทศพื้นถิ่นและสร้างสรรค์เส้นทางที่สื่อสารกับภูมิทัศน์โดยรอบ รวมทั้งยังสร้างความรู้สึกใหม่ในพื้นที่เดิมให้แก่ผู้เข้าชมและผสมวัสดุก่อสร้างที่เลือกใช้ได้อย่างน่าสนใจ ถัดมาคือโครงการ The Commons ทองหล่อ (พ.ศ. 2559) และศาลาบางปะอิน (พ.ศ. 2564) ออกแบบโดยบริษัท ดีพาร์ทเม้นท์ ออฟ อาร์คิเทคเจอร์ จำกัด ได้สร้างความพิเศษในการเชื่อมโยงพื้นที่ร่มและพื้นที่กลางแจ้งบนผืนดินผ่านทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ด้วย “พื้นที่สีเทาด้านล่าง” ซึ่งสะท้อนถึงพื้นที่อเนกประสงค์ “ไต้ถุน” ในสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของไทย สำหรับโครงการ Sparkling Market ในเมืองซินจู๋ (พ.ศ. 2555) และ Pavilion for Hsinchu Bus Station Plaza (พ.ศ. 2561) ของ Atelier Or โครงสร้างขนาดเล็กและเบาได้ปลดปล่อยข้อจำกัดทางการมองเห็นอาคารแบบดั้งเดิม เกิดเป็นการบูรณาการระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกอย่างไร้ขอบเขต ความรู้สึกที่ส่งต่อจากผืนดินผ่านมายังผลงานของสถาปนิกทั้งสี่กลุ่มใน Feeling Grounds นี้ ได้กระตุ้นให้ผลงานสถาปัตยกรรมสร้างกระบวนการเอื้อเฟื้อและเห็นอกเห็นใจต่อผืนดิน เกิดเป็นความพิเศษเหนือธรรมดา, การระลึกถึงถิ่นที่, การมีอยู่ของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น, และการไร้ซึ่งขอบเขตของสถาปัตยกรรม

องค์ประกอบเหล่านี้เมื่อปรากฏต่างเวลาต่างสถานที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเชื่อมโยงให้กับโลกใบนี้ พื้นที่นิทรรศการที่ถูกโอบล้อมด้วยบ้านเก้าหลังลดหลั่นไม่เสมอกัน เกิดเป็นความหลากหลายของพื้นที่จัดแสดงที่มีทั้งพื้นที่ร่มและสว่างซึ่งเปิดโล่งและต่อเนื่องกัน ความลาดเอียงของหลังคาที่ต่อเนื่องไม่เพียงแต่จะนำเสนอภาพลักษณ์ของนิทรรศการแล้ว ยังสร้างความต่างของพื้นที่เกิดเป็นความมืดและสว่างร่วมกับภาพผลงานของสถาปนิกทั้ง 8 บริษัทที่นำมาจัดแสดง สร้างความสงบและผ่อนคลายให้กับผู้เยี่ยมชมหาคำตอบถึงอนาคตของหน้าที่สถาปัตยกรรมต่อผืนดินที่ตั้งอยู่ และมองหาการบรรจบกันของสถาปัตยกรรมที่สนองต่อบริบทของถิ่นที่และบริบทของโลกบนผืนดินที่ไม่สิ้นสุดนี้ร่วมกัน

Title: Infinity Ground – Thailand and Taiwan Contemporary Architecture Exhibition
Hosts: The Association of Siamese Architects Under Royal Patronage; Taipei Economic and Cultural Office in Thailand; Chulalongkorn University – Faculty of Architecture; King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang – School of Architecture, Art, and Design; King Mongkut’s University of Technology Thonburi – School of Architecture and Design; Silpakorn University – Faculty of Architecture
Co-Organizers: HAS design and research, Bangkok Art and Culture Centre, art4d, Alliance for Architectural Modernity Taiwan
Principal Curators: Jenchieh Hung, Kulthida Songkittipakdee
Participants: Architects 49 Limited, Behet Bondzio Lin Architekten, Duangrit Bunnag Architect Limited, MAYU architects, Arsomsilp Community and Environment Architect, Ambi Studio, Department of ARCHITECTURE, Atelier Or
Space Design: HAS design and research
Supporters: Alufence, Canon Thailand, Jorakay, Saint-Gobain Thailand, RichCons, FloraScape, Zdecore
Duration: 2023 July 18 – August 6
Opening Event: 2023 July 18, 14:00 (invitation only)
Opening Hours: Tuesday – Sunday, 10:00 – 20:00
Venue: Bangkok Art and Culture Centre LF939 Rama I Road, Wang Mai, Pathum Wan, Bangkok

Pin It on Pinterest

Shares
Share This